ประกาศความเป็นส่วนตัว
“ท่าน” ลูกค้า
“บริษัท”, “ของบริษัท” บริษัท อะเบาท์เฟส เอสเทติค จำกัด
“ลูกค้า” ลูกค้าทั่วไป,คู่ค้าทางธุรกิจ และทุกภาคส่วนที่ติดต่อทำธุรกรรมกับบริษัท
“ข้อมูลส่วนบุคคล” ความหมายเดียวกันกับ"ข้อมูลส่วนบุคคล"ที่ถูกกำหนดไว้ในพระราชบัญญัติ
ข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย พ.ศ.2562 (2019) ("PDPA")ซึ่งรวมถึง ชื่อ,
อีเมล, รหัสไปรษณีย์วันเกิด, เบอร์โทรศัพท์, หมายเลขบัตรประชาชน, และข้อมูล
อื่นที่สามารถระบุตัวตนของลูกค้าได้
“ใช้”, “ดำเนินการ” ความหมายเดียวกันกับ"การดำเนินการ"ที่ถูกกำหนดไว้ในพระราชบัญญัติข้อมูล
ส่วนบุคคลของประเทศไทย พ.ศ.2562 (2019) ("PDPA")ซึ่งหมายรวมถึง
ข้อมูลทั่วไป
บริษัท อะเบาท์เฟส เอสเทติค จำกัด มุ่งมั่นที่จะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่ท่านที่ได้ให้ไว้กับบริษัท บริษัทให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวอย่างจริงจัง บริษัทจะรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่จำเป็นและชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น
ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ใช้กับบริษัท อะเบาท์เฟส เอสเทติค จำกัด โดยกล่าวถึง ข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวม การนำข้อมูลไปใช้ บุคคลที่บริษัทได้นำส่งข้อมูลให้และวัตถุประสงค์ในการเปิดเผยข้อมูล และทางเลือกและสิทธิของท่านในข้อมูลส่วนตัวที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัท
บริษัทจะมีการปรับปรุงประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวอยุ่เสมอ ดังนั้นโปรดตรวจสอบเว็บไซต์ของบริษัทสำหรับการ อัปเดตเป็นครั้งคราว หากมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกี่ยวกับวิธีที่บริษัทจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทอาจจะติดต่อท่านเพื่อแจ้งให้ท่านทราบ
ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมและนำมาใช้
ข้อมูลที่บริษัททำการเก็บรวบรวมและอาจนำมาใช้ ประกอบด้วย
ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการระบุตัวตนและความปลอดภัย เช่น ชื่อ/นามสกุล, วันเกิด, เพศ, สถานภาพสมรส, ประเทศเกิด, บัตรประจำตัวประชาชน, สัญชาติ, หมายเลขหนังสือเดินทาง, วันหมดอายุและสถานที่ออกเอกสาร, อาชีพ และรายละเอียดการจ้างงาน ได้แก่ ตำแหน่งงาน, เงินเดือน และที่อยู่ของนายจ้าง
ข้อมูลที่ใช้ในการติดต่อท่าน เช่น ที่อยู่ (ที่อยู่ปัจจุบันในประเทศไทยและที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน กรณีต่างที่อยู่), เบอร์โทรศัพท์ (โทรศัพท์เคลื่อนที่), อีเมล
ข้อมูลเกี่ยวกับการติดต่อระหว่างท่านกับบริษัท เช่น ทางโทรศัพท์, ทางอีเมล / จดหมาย
ข้อมูลที่เกิดจากการเชื่อมต่ออัตโนมัติ เช่น ผ่านการใช้ Cookies เมื่อท่านเข้าเยี่ยมชมเว็บไซด์ของบริษัท
ข้อมูลที่จัดว่าเป็น “ข้อมูลอ่อนไหว” เช่น ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเชื้อชาติ, เผ่าพันธุ์, ความเห็นทางการเมือง, ความเชื่อในลัทธิ, ศาสนา หรือปรัชญา, พฤติกรรมทางเพศ, ประวัติอาชญากรรม, ข้อมูลสุขภาพ, ข้อมูลความพิการ, ข้อมูลสหภาพแรงงาน, ข้อมูลพันธุกรรม, ข้อมูลทางชีวภาพ (biometric data), หรือข้อมูลอื่นใดที่กระทบต่อสิทธิเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล. ข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเป็นข้อมูลที่อ่อนไหวดังกล่าวจะถูกรวบรวมและใช้เฉพาะในกรณีที่จำเป็นเพื่อจัดหาผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ท่านร้องขอ หรือเพื่อปฏิบัติตามภาระผูกพันทางกฎหมายของบริษัทและในกรณีที่บริษัทได้รับความยินยอมอย่างชัดแจ้งจากท่านในการประมวลผลข้อมูลดังกล่าว
ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับท่าน ซึ่งจำเป็นในการจัดหาผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ตกลงกันไว้เช่น ชื่อ, วันเกิดสัญชาติ, หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน, หรือหมายเลขหนังสือเดินทางของคู่สมรส หรือผู้รับผลประโยชน์ของท่าน
เหตุผลในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทให้ความสำคัญกับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณอย่างจริงจัง และบริษัทเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลที่เป็นส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็น อย่างยุติธรรม และถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น บริษัทจะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลของท่านเฉพาะในกรณีที่บริษัทสามารถปฏิบัติตามกระบวนการเงื่อนไขที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งกำหนดไว้ในกฎหมายคุ้มครองข้อมูล ดังนี้
-ในกรณีที่จำเป็นต้องจัดหาผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ท่านร้องขอเช่น หากท่านต้องการสิทธิประโยชน์ในวันเกิดของท่านกับทางของบริษัท บริษัทจะต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลบางอย่างซึ่งอาจรวมถึงชื่อ, ที่อยู่, วันเดือนปีเกิดของท่าน
-เพื่อผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของบริษัทโดยที่การกระทำดังกล่าวไม่ได้ละเมิดข้อมูลของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลเช่น เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่สำหรับลูกค้าของบริษัท
-เพื่อประสิทธิภาพของงานซึ่งบริษัทจำเป็นที่ต้องดำเนินการเพื่อประโยชน์สาธารณะ
-ท่านได้ให้ความยินยอมอย่างชัดแจ้งแก่บริษัทในการใช้ข้อมูลของท่านตามวัตถุประสงค์ที่ตกลงกัน ตัวอย่างเช่น การยินยอมให้บริษัทนำข้อมูลไปใช้ด้านการตลาด ประชาสัมพันธ์
การจัดการและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทให้ความสำคัญและคำนึงถึงความปลอดภัยกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นอย่างมากและบริษัทมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามภาระหน้าที่ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลใดๆที่บริษัทรวบรวมและใช้ในทางใดทางหนึ่งอยู่เสมอ บริษัทกำหนดมาตรการที่เหมาะสมในการจัดการและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของคุณอย่างเหมาะสมดังต่อไปนี้
-สร้างวัฒนธรรมองค์กรเพื่อส่งเสริมและสร้างความมั่นใจกับข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดของท่านที่บริษัทจัดเก็บไว้
-แต่งตั้งผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อดูแลจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสม
-กำหนดกฎเกณฑ์ภายในของบริษัทตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและแนวทางปฏิบัติที่ออกโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้แน่ใจว่ามีการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม
-ให้ความรู้แก้พนักงานของเราเพื่อให้แน่ใจว่าพนักงานเข้าใจถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและเข้าใจกฎเกณฑ์และแนวทางที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
-จัดตั้งทะเบียนการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและการบังคับใช้ข้อจำกัดที่เหมาะสมในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
-สร้างมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมและสมเหตุสมผล (รวมถึงวิธีการจัดเก็บที่ปลอดภัยพร้อมการควบคุมการเข้าถึงข้อมูลอย่างจำกัด) เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือข้อมูลรั่วไหล, การทำลายหรือการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคล, การควบคุมความปลอดภัยของบริษัทจะสอดคล้องกับมาตรฐานอุตสาหกรรมและแนวทางปฏิบัติที่ดี, การจัดเตรียมสภาพแวดล้อมการควบคุมที่เหมาะสมซึ่งสามารถจัดการความเสี่ยงต่อการรักษาความลับ, ความสมบูรณ์ และความพร้อมในการใช้งานของข้อมูลส่วนบุคคล
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อบุคคลภายนอก
บริษัทอาจจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลภายนอกตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ใน “เหตุผลในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน”
บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลภายนอกในกรณีที่ต้องทำโดยชอบด้วยกฎหมายและสอดคล้องกับภาระหน้าที่ของบริษัทภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูล
บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลของท่านต่อบุคลหรือองค์กรดังต่อไปนี้
-บริษัทผู้เกี่ยวข้องกับการนำเสนอการตลาด โฆษณา และประชาสัมพันธ์
-บุคคลภายนอกอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนำเสนอการตลาด โฆษณา และประชาสัมพันธ์
โดยการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลภายนอกดังกล่าว บริษัทจะต้องมั่นใจว่าบุคคลเหล่านั้นจะปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นความลับและจะไม่ใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดนอกเหนือจากขอบเขตที่บริษัทกำหนด
บริษัทจะสั่งให้บุคคลภายนอกประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในนามของบริษัทในกรณีที่บริษัทได้รับการรับรองว่าบุคคลภายนอกจะจัดการและคุ้มครองข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสมตามมาตรฐานที่กำหนดภายใต้กฎหมาย นอกจากนั้น ก่อนที่บริษัทจะให้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่ผู้ให้บริการดังกล่าว บริษัทจะดำเนินการทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร โดยระบุว่าบุคคลภายนอกจะปฏิบัติอย่างเคร่งครัดตามขอบเขตการใช้งานของข้อมูลและเพื่อให้มั่นใจได้ว่าบุคคลเหล่านี้ได้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลอย่างถูกต้อง และบริษัทจะมีการตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างต่อเนื่องเป็นระยะ
ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในขณะที่คุณเป็นลูกค้าของบริษัท แม้ว่าภายหลังท่านจะไม่ได้มีความสัมพันธ์กับทางบริษัท บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลตามเหตุผลทางกฎหมายและข้อบังคับ ทั้งนี้ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลอาจแตกต่างกันไปตามประเภทและวัตถุประสงค์โดยบริษัทจะมีการทบทวนระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลอยู่เสมอ เพื่อกำหนดให้ระยะเวลาดังกล่าวสอดคล้องกับกฎหมายและข้อบังคับทั้งหมด เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูล บริษัทจะดำเนินการลบข้อมูลหรือจัดทำให้อยู่ในรูปแบบของข้อมูลนิรนาม หรือข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ ในบางกรณี บริษัทอาจจะไม่ต้องดำเนินการใด ๆ หากไม่สามารถจัดสรรข้อมูลให้กับบุคคลที่ระบุตัวตนได้เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูล
สิทธิตามกฎหมายของท่าน
1.ท่านมีสิทธิหลายประการภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลซึ่งท่านสามารถเริ่มใช้สิทธิตามพรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามสถานการณ์ ดังต่อไปนี้
2.สิทธิในการได้รับการแจ้งข้อมูลส่วนบุคคล
3.สิทธิในการถอนความยินยอม
4.สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
5.สิทธิในการรับและโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล
6.สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
7.สิทธิในการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล
8.สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
ช่องทางการติดต่อ
หากท่านต้องการสอบถามเกี่ยวกับประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ กรุณาติดต่อ: Line: @aboutface